รูปแบบการดำเนินชีวิตกับภาวะเจริญพันธุ์
รูปแบบการดำเนินชีวิตกับภาวะเจริญพันธุ์
ภาวะเจริญพันธุ์คือ ความสามารถที่จะมีบุตรหรือ ตั้งครรภ์ได้ตามธรรมชาติมีการวิจัยแสดงให้เห็นว่า รูปแบบการดำเนินชีวิตมีผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ และอาจเกี่ยวข้องกับภาวะมีบุตรยากอีกด้วย แม้ว่าทั้งฝ่ายชายและฝ่ายหญิงไม่มีปัญหาทางสุขภาพ โอกาสในการตั้งครรภ์ ของแต่ละรอบของการตกไข่ก็ขึ้นกับอิทธิพลจากหลายปัจจัย เช่น อายุ ฯลฯ ดังนั้นการค้นหาวิธีที่สามารถนำมาใช้ส่งเสริม ปรับปรุง และ ป้องกัน ภาวะเจริญพันธุ์ได้ จึงเป็นสิ่งที่น่าสนใจ โดยสามารถนำไปใช้กับคู่ที่เพิ่งตัดสินใจจะมีบุตร รวมถึงผู้ที่พยายามมีบุตรมาเป็นเวลาหลายเดือน หรือผู้ที่ประสบกับปัญหาภาวะมีบุตรยากแล้วอีกด้วย
รูปแบบการดำเนินชีวิตที่ส่งผลดีต่อภาวะเจริญพันธุ์
• การควบคุมน้ำหนัก สำหรับผู้ชายและผู้หญิง การที่มีปริมาณไขมันในร่างกายมาก ( น้ำหนักมากเกินเกณฑ์) อาจจะรบกวนการทำงานของฮอร์โมนของระบบสืบพันธุ์ ในผู้ชาย จะส่งผลให้ปริมาณตัวอสุจิลดลง และตัวอสุจิที่ผิดปกติมีเปอร์เซ็นต์เพิ่มมากขึ้น สำหรับผู้หญิงจะส่งผลให้เกิดการไม่การตกไข่ และเกิดความผิดปกติของรอบประจำเดือน และสำหรับผู้หญิงที่มีน้ำหนักต่ำกว่าเกณฑ์ อาจจะมีผลเกี่ยวกับเรื่องของการหยุดการตกไข่อีกด้วย
• การบริโภคผลไม้และผักในปริมาณเพียงพอ อาหารกลุ่มนี้มีสารต้านอนุมูลอิสระจำนวนมาก ซึ่งอาจช่วยในการปรับปรุงคุณภาพของตัวอสุจิ นอกจากนั้นยังช่วยควบคุมน้ำหนักและสร้างเสริมร่างกายให้แข็งแรงอีกด้วย
• การจัดการความเครียด ความเครียดเป็นตัวแทรกแซงการทำงานของฮอร์โมนของระบบสืบพันธุ์ ดังนั้นจึงสามารถส่งผลต่อทั้งการผลิตตัวอสุจิและการตกไข่ นอกจากนี้ความเครียดยังทำให้สมรรถภาพทางเพศลดลงอีกด้วยอีกด้วย (อ่านเพิ่มเติมที่-รูปแบบการดำเนินชีวิตที่ควรหลีกเลี่ยง)
• การออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีสำหรับสุขภาพทั้งด้านการการเจริญพันธุ์และสุขภาพโดยรวม อย่างไรก็ตามควรจะหลีกเลี่ยงการออกกำลังหักโหมมากจนเกินไป (อ่านเพิ่มเติมที่-รูปแบบการดำเนินชีวิตที่ควรหลีกเลี่ยง)
• วิตามิน ในรายที่รับประทานอาหารที่มีสารอาหารครบถ้วนอยู่แล้ว อาหารเสริมก็ไม่มีความจำเป็น อย่างไรก็ตาม วิตามินอี และวิตามินซี มีความสำคัญสำหรับการผลิตและการทำงานของตัวอสุจิ เช่นเดียวกันในผู้หญิงวางแผนจะมีบุตรก็ควรได้้รับกรดโฟลิคทุกวัน เพราะสามารถป้องกันความพิการแต่กำเนิดบางอย่างได้ (แต่ไม่ได้ช่วยเรื่องปรับปรุงภาวะเจริญพันธุ์)
รูปแบบการดำเนินชีวิตที่ควรจะหลีกเลี่ยง
• การสูบบุหรี่ และโดยเฉพาะอย่างยิ่งการสูบบุหรี่ปริมาณมาก สำหรับผู้หญิงที่สูบบุหรี่ปริมาณมากมักจะเจอปัญหาความล้มเหลวของรังไข่ก่อนวัยอันควร (หมดประจำเดือน) และการเสื่อมของไข่ในรังไข่ ในอายุน้อยกว่าที่ควรเป็น สารนิโคตินและสารเคมีอื่นๆในบุหรี่ ยังรบกวนการผลิตเอสโตรเจนอีกด้วย สำหรับผู้ชายบุหรี่ทำให้อัตราของเซลล์อสุจิที่รูปร่างผิดปกติหรือเคลื่อนไหวช้าเพิ่มมากขึ้น นอกจากนี้การใช้ยาสูบก็อาจเป็นสาเหตุทำให้ปริมาณของตัวอสุจิลดลงได้เช่นกัน การสูบบุหรี่เป็นสาเหตุของ ดีเอ็นเอ (สารพันธุกรรมในโครโมโซม) ผิดปกติในตัวอสุจิและไข่ ซึ่งส่งผลให้เกิดการแท้งมากขึ้น และอาจจะเป็นปัญหาต่อพัฒนาการของทารกในภายหลังอีกด้วย
• การดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ สำหรับผู้หญิงที่ดื่มแอลกอฮอล์ปริมาณมากมักจะมีความเสี่ยงของความผิดปกติในการตกไข่มากขึ้น และบางผลงานวิจัยพบว่า แม้จะเป็นการดื่มปริมาณน้อยก็อาจมีผลลดโอกาสของการตั้งครรภ์ได้ สำหรับผู้ชายการดื่มปริมาณมากจะลดคุณภาพและปริมาณของตัวอสุจิ หากมีความจำเป็นต้องดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ก็ควรจะจำกัดปริมาณการดื่มของตนเองไม่ให้มากเกินไป
• การบริโภคคาเฟอีนมากเกินไป คาเฟอีนปริมาณมากอาจจะมีผลต่อการผลิตเอสโตรเจนและอาจทำให้เกิดภาวะเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่หรือ endometriosis เพื่อให้ภาวะเจริญพันธุ์เป็นปกติ สำหรับผู้หญิงควรจะจำกัดจำนวนของคาเฟอีนในอาหารไม่ให้เกินปริมาณของคาเฟอีนหกแก้วกาแฟต่อวัน (คาเฟอีนประมาณ900 มิลลิกรัม) ซึ่งปริมาณดังกล่าวรวมถึงคาเฟอีนในกาแฟ ชา ช็อคโกแลต โซดา และเครื่องดื่มให้พลังงานด้วย
• ความเครียดความทุกข์ ความกังวล และภาวะซึมเศร้า เกี่ยวข้องกับภาวะมีบุตรยากทั้งในเพศชายและหญิง และทำให้อัตราการตั้งครรภ์ลดน้อยลง แต่ในทางกลับกัน ภาวะมีบุตรยากและการรักษาเองก็อาจจะก่อให้เกิดความเครียดได้เช่นกัน (บางครั้งความเครียดอาจจะไม่ใช่สาเหตุ แต่เป็นผลจากการมีบุตรยาก) ฮอร์โมนจากความเครียดจะรบกวนการทำงานของฮอร์โมนการสืบพันธุ์ ดังนั้นในช่วงที่มีความเครียดจากชีวิตประจำวัน การผลิตตัวอสุจิและการตกไข่จะถูกยับยั้ง
เพราะฉะนั้น จึงแนะนำให้ลดภาวะเครียด และถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งยังคงเกิดความเครียดก็ควรจะมีการฝึกการจัดการสุขภาพจิตที่ดี แต่หากไม่สามารถจัดการกับความเครียดนั้นได้เองหรือความเครียดนั้นกลายเป็นความทุกข์ทรมาน (จนส่งผลกระทบกับการดำเนินชีวิตประจำวัน) ก็ควรจะปรึกษาจิตแพทย์
• การออกกำลังกายหักโหมมากเกินไป การออกกำลังกายหักโหมมากเกินไปมักจะเกี่ยวข้องกับตัวอสุจิที่มีคุณภาพลดลงในผู้ชาย ส่วนในผู้หญิงจะรบกวนการตกไข่ และการผลิตฮอร์โมนโปรเจสเตอโรน สำหรับผู้หญิงที่ออกกำลังกายอย่างหนัก (เช่น การวิ่งมาราธอน) อาจจะเกี่ยวข้องกับการขาดหายไปของรอบประจำเดือนได้ สำหรับผู้ที่มีน้ำหนักตัวปกติ การออกกำลังกายระดับปานกลาง(ไม่มากเกินเจ็ดชั่วโมงต่อสัปดาห์) ก็นับว่าเหมาะสม แต่ในผู้ที่มีน้ำหนักตัวน้อยหรือมากกว่าเกณฑ์ปกติ ควรจะปรึกษาแพทย์เกี่ยวกับการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับตนเอง
• การอาบน้ำร้อนและการซาวน่า การผลิตตัวอสุจิจะเสื่อมลงเมื่อสัมผัสกับความร้อนมากเกินไป ดังนั้นการแช่นำ้ร้อน ที่มีความร้อน 104o F (40o C) หรือมากกว่า เป็นเวลามากกว่า 30 นาที อาจทำให้ปริมาณของตัวอสุจิลดลง ดังนั้น จึงควรหลีกเลี่ยงการแช่น้ำร้อน หรือซาวน่า นอกจากนี้การทำงานในที่ร้อนเกินไป การสวมใส่ชั้นในที่แน่นเกินไป และการใช้คอมพิวเตอร์แบบพกพา (laptop) วางโดยตรงบนตัก ก็สามารถเพิ่มอุณหภูมิความร้อนต่ออัณฑะได้ทั้งสิ้น นอกจากนั้น การเป็นไข้เรื้อรังเป็นเวลานานก็ยังสามารถมีผลกระทบกับการผลิตและคุณภาพของตัวอสุจิอีกด้วย
• สารหล่อลื่นระหว่างการมีเพศสัมพันธ์ สารหล่อลื่น ครีมโลชั่น และแม้แต่น้ำลาย สามารถแทรกแซง การเคลื่อนไหวของตัวอสุจิ ดังนั้น จึงควรใช้น้ำมันจากพืช ดอกคำฝอย หรือน้ำมันถั่วลิสงแทน
• การสัมผัสสารพิษ ยาเสพติด หรือยาบางชนิด สารเคมีที่ใช้ในสถานที่ทำงานและครัวเรือน เช่น สารโลหะหนักในโรงงานอุตสาหกรรม สารกำจัดศัตรูพืช ตัวทำละลายอินทรีย์ (เช่น สารเคมีใช้ซักแห้ง) และสารเคมีและตัวทำละลาย อื่นๆ อาจจะมีผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์ ดังนั้นจึงแนะนำให้สวมสิ่งป้องกันเมื่อสัมผัสสารดังกล่าว สถานที่ควรมีการระบายอากาศที่เหมาะสม และสวมหน้ากากหรือใช้ผ้าปิดจมูก เพื่อลดความเสี่ยงจากสารพิษ สำหรับผู้ที่ทำงานด้านอุตสาหกรรมหรือเกษตรกรรมอาจจะปรึกษาแพทย์หากเกิดความกังวลเมื่อต้องสัมผัสกับสารเคมีหรือก๊าซต่างๆ
นอกจากนั้นยาบางอย่างโดยเฉพาะสารเสตียรอยด์ ยาฮอร์โมน และยารักษาโรคมะเร็งก็อาจจะมีผลกระทบต่อภาวะเจริญพันธุ์เช่นกัน และสุดท้ายยาเสพติด (กัญชา โคเคน และฝิ่น) จะส่งผลกระทบให้ตัวอสุจิเคลื่อนที่ได้แย่ลงและพบตัวอสุจิที่ผิดปกติมากขึ้น และยังนำไปสู่การเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ(อวัยวะเพศชายไม่แข็งตัว)อีกด้วย