Find us on facebook youtube

สิ่งที่ควรทำก่อนการตั้งครรภ์

ร่ายกายมักมีการเปลี่ยนแปลงหลายด้านเมื่อเริ่มเข้าสู้การตั้งครรภ์ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงเหล่านี้ทำให้ผู้หญิงต้องพบกับอุปสรรคในการดำเนินชีวิตหลายด้านโดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องอารมณ์ ความกังวลอีกอย่างหนึ่งก็คือ ความพิการหรือความผิดปกติของทารกหลังคลอด ซึ่งพบได้ประมาณ1-3%ของจำนวนทารกหลังคลอดทั้งหมด และที่แย่กว่านั้นคือบางครั้งความพิการเหล่านี้ไม่ปรากฏให้เห็นเด่นชัดเสมอไปตั้งแต่หลังคลอด โชคยังดีที่การศึกษาของนักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบว่าความผิดปกติของทารกนั้น สามารถหลีกเลี่ยงได้ด้วยการตรวจร่างกายตัวคุณแม่ก่อนการตั้งครรภ์ และการรับประทานวิตามินเพิ่มเติม ที่สำคัญการไปพบสูตินารีแพทย์เพื่อทำการปรึกษาก่อนการตั้งครรภ์ก็มีประโยชน์อยู่มาก

สามเดือนก่อนการตั้งครรภ์ ผู้หญิงควรรับประทานวิตามินเสริมที่ชื่อว่าFolic Acidวิตามินตัวนี้มีส่วนช่วยป้องกันความผิดปกติของสายสะดือในร่างกายซึ่งจะส่งผลความผิดปกติที่ร้ายแรงต่อสมองและสันหลัง และโชคไม่ดีที่อาจนำมาซึ่งความพิการของลูกได้ สายสะดือนี้จะถูกสร้างขึ้นทันทีที่มีการตั้งครรภ์เกิดขึ้น ซึ่งเป็นช่วงก่อนที่ผู้หญิงจะทราบว่าตนเองตั้งครรภ์เสียอีก

วัคซีนที่จะกล่าวต่อไปนี้ไม่เพียงแต่จำเป็นสำหรับเด็กอย่างเดียว แต่จำเป็นสำหรับผู้ใหญ่โดยเฉพาะหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ด้วย หญิงที่คิดว่าจะตั้งครรภ์ควรได้รับการฉีดวัคซีนป้องกันหัดเยอรมัน และวัคซีนอีสุกอีใสก่อนการตั้งครรภ์อย่างน้อยหนึ่งเดือน  ผู้หญิงที่พบว่าติดเชื้อโรคหัดเยอรมันอาจทำให้เกิดความผิดปกติของทารก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระหว่างช่วงครึ่งแรกของการตั้งครรภ์ เชื้อไวรัสที่ทำให้เกิดโรคอีสุกอีใสก็เป็นสาเหตุอีกสาเหตุหนึ่งที่เป็นที่มาของโรคร้ายร้ายในผู้หญิงที่กำลังตั้งครรภ์ นี่คือสาเหตุที่แพทย์บางท่านแนะนำให้มีการฉีดวัคซีนป้องกันเพื่อป้องกันทั้งหญิงมีครรภ์และตัวอ่อนในครรภ์จากการติดเชื้้อ นอกจากนี้วัคซีนเหล่านี้ยังช่วยลดโอกาสการคลอดก่อนกำหนด หรือแม้กระทั่งการที่ทารกมีขนาดตัวเล็กเกินไปเมื่อคลอดอีกด้วย

ผู้หญิงที่ครอบครัวมีประวัติโรคธาลัสซีเมีย(โรคความผิดปกติของเลือดที่ถ่ายทอดกันในครอบครัว บางครั้งเมื่อพ่อแม่มีความผิดปกติเพียงเล็กน้อย แต่ลูกอาจเป็นอันตราจถึงแต่การเสียชีวิตได้)ควรได้รับการตรวจโครงสร้างทางพันธุกรรมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ

ผู้หญิงที่เป็นโรคเบาหวานมีความเสี่ยงถึงสองเท่าที่ลูกจะเกิดมาและมีความผิดปกติ การควบคุมน้ำตาลในเลือดก่อนการพยายามที่จะมีบุตรอาจช่วยให้ความเสี่ยงความผิดปกติของทารกน้องลดลงได้

ผู้หญิงที่เป็นไฮโปไทรอยด์ (คือภาวะที่ฮอร์โมนไทรอยด์ในร่างกายต่ำ) ควรได้รับยาเพื่อช่วยปรับสมดุลก่อนการตั้งครรภ์และระหว่างการตั้งครรภ์

วิธีการดำรงชีวิตก็เป็นสิ่งที่สำคัญ การดื่มสุราและการสูบบุหรี่อาจเป็นสาเหตุสำคัญของความผิดปกติของทารกได้ หรืออาจส่งผลให้ทารกเสียชีวิตในครรภ์ก็เป็นได้ นอกจากนี้ยังทำให้การเจริญเติบโตของทารกในครรภ์ล่าช้าอีกด้วย ผู้หญิงที่ต้องการตั้งครรภ์ควรหยุดนิสัยการดื่มและสูบบุหรี่ก่อนการตั้งครรภ์จะดีกว่า สุดท้ายนี้ คุณควรต้องปรึกษากับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญของท่านเกี่ยวกับการรับประทานยาที่คุณทานเป็นประจำอยู่แล้ว เพื่อให้แน่ใจว่าสารที่อยู่ในยาจะไม่ทำอันตรายต่อทารกในครรภ์ อีกสิ่งหนึ่งที่คุณควรทำคือการปรึกษาแพทย์เพื่่อหารือเกี่ยวกับสารเคมีที่มีภายในบ้านซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ได้

Last update: 11 September 2012 | View 1747

« Back