ผลการรักษาของกุลพัฒน์คลินิก
การเปรียบเทียบกับมาตรฐานของยุโรป
อย่างที่ได้กล่าวในตอนต้นแล้วว่า อัตราการสำเร็จของการใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์นั้นขึ้นกับลักษณะของประชากรที่เข้ารับการรักษาในแต่ละสถาบัน ดังนั้นการนำผลความสำเร็จมาเปรียบเทียบข้ามสถาบันซึ่งลักษณะของผู้ที่เข้ารับการรักษาต่างกันอาจไม่เหมาะสมนัก อย่างไรก็ตามการเปรีบเทียบกับข้อมูลจากแหล่งข้อมูลขนาดใหญ่ที่มีสถาบันการรักษาเข้าร่วมจำนวนมากก็จะเหมาะสมมากกว่าเนื่องจากเมื่อมีประชากรกลุ่มที่นำมาศึกษาจำนวนมาก ก็จะได้ค่าใกล้เคียงกับประชากรทั่วไปจริงๆมากขึ้น ในที่นี้จะใช้ค่าจาก European Society of Human Reproduction and Embryology (ESHRE) ซึ่งตีพิมพ์ล่าสุด และมาจากภูมิภาคที่เป็นผู้นำด้านการรักษาภาวะมีบุตรยากด้วยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ โดยการศึกษานี้มาจากฐานข้อมูลของ ESHRE registry ซึ่งมีจำนวนข้อมูลของผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาถึงประมาณห้าแสนคนต่อปี จาก 33 ประเทศในยุโรป โดยผลของ ESHRE registry อยู่ที่ “reference data/ข้อมูลอ้างอิง ”
ความสำเร็จของการรักษาใรแผนภาพด้านล่างเป็นอัตราความสำเร็จของกุลพัฒน์คลินิก เทียบกับ ESHRE ในการทำ IVF, FET และ ED โดยข้อมูลของทางเราถือว่าประสบความสำเร็จเมื่อสามารถตั้งครรภ์ถึงคลอดบุตรมีชีพได้ ไม่ใช่การตั้งครรภ์เพียงอย่างเดียว แต่ของ ESHRE รวมภาวะตายคลอดเอาไว้ด้วย
ข้อสรุป:
โดยสรุป เมื่อเทียบอัตราความสำเร็จของกุลพัฒน์คลินิกกับ ฐานข้อมูลของทางยุโรปแล้วพบว่า ผู้ป่วยของกุลพัฒน์มีอายุโดยเฉลี่ยที่มากกว่า มีการย้ายตัวอ่อนจำนวนมากกว่า อัตราการคลอดและการเกิดครรภ์แฝดไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตามพบว่า การย้ายตัวอ่อนที่ผ่านการแช่แข็งมาก่อน (FET) ให้อัตราการประสบความสำเร็จน้อยกว่าการย้ายตัวอ่อนสู่โพรงมดลูกตามรอบปกติ (ET) และการใช้ไข่บริจาค (ED)
ความสำเร็จของการรักษาใรแผนภาพด้านล่างเป็นอัตราความสำเร็จของกุลพัฒน์คลินิก เทียบกับ ESHRE ในการทำ IVF, FET และ ED โดยข้อมูลของทางเราถือว่าประสบความสำเร็จเมื่อสามารถตั้งครรภ์ถึงคลอดบุตรมีชีพได้ ไม่ใช่การตั้งครรภ์เพียงอย่างเดียว แต่ของ ESHRE รวมภาวะตายคลอดเอาไว้ด้วย
ตารางนี้ แสดงปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จในการตั้งครรภ์
|
Age >= 40 years (% of patients) |
verage no. embryos transferred |
wins (% of deliveries) |
Kullapat
|
16.9% |
2.6 |
21% |
ESHRE
|
14.4% |
2.0 |
20% |
โดยสรุป เมื่อเทียบอัตราความสำเร็จของกุลพัฒน์คลินิกกับ ฐานข้อมูลของทางยุโรปแล้วพบว่า ผู้ป่วยของกุลพัฒน์มีอายุโดยเฉลี่ยที่มากกว่า มีการย้ายตัวอ่อนจำนวนมากกว่า อัตราการคลอดและการเกิดครรภ์แฝดไม่ต่างกัน อย่างไรก็ตามพบว่า การย้ายตัวอ่อนที่ผ่านการแช่แข็งมาก่อน (FET) ให้อัตราการประสบความสำเร็จน้อยกว่าการย้ายตัวอ่อนสู่โพรงมดลูกตามรอบปกติ (ET) และการใช้ไข่บริจาค (ED)